พาไปรู้จัก ไดโนนีคัส ไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดกลาง มีความว่องไว

ไดโนนีคัส นักล่ากินเนื้อขนาดกลาง พวกมันถือเป็นสายพันธุ์นักล่า ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นความฉลาดและความว่องไว ยังถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มโดรเมโอซอร์ มีพฤติกรรมการล่าเหยื่อเป็นกลุ่ม เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก ประวัติการค้นพบ พฤติกรรมการออกล่า รวมถึงลักษณะทางกายภาพ มีข้อมูลดังต่อไปนี้

ไดโนนีคัส ถูกพบครั้งแรกเมื่อไหร่ และถูกพบที่ไหนในภูมิภาค

ไดโนนีคัส (Deinonychus) เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ในกลุ่มของนักล่าฟอสซิลชาวอเมริกัน บาร์นัม บราวน์ (Barnum Brown) เขาได้ค้นพบซากฟอสซิลตัวอย่างต้นแบบของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ในขณะที่เขาออกล่าไดโนเสาร์อีกชนิดในมอนทานา ซึ่งก็คือฮาโดรซอร์ หรือไดโนเสาร์ปากเป็ด แต่พวกเขาพบฟอสซิลโดยบังเอิญ [1]

ซากฟอสซิลถูกค้นพบจากกลุ่มหินโคลเวอร์ลี ในประเทศมอนทานาและไวโอมิง และพบในกลุ่มหินเขากวาง กลุ่มหินโคลเวอร์ลีได้รับการระบุอายุตั้งแต่ช่วงยุคครีเทเชียสตอนต้น เมื่อประมาณ 115 ล้านปีก่อน นอกจากนี้ยังค้นพบฟันของมันในกลุ่มดินเหนียว (Arundel) และชั้นกลางกลุ่มหิน บนที่ราบชายฝั่งแอตแลนติกของแมริแลนด์

สำหรับซากดึกดำบรรพ์ชุดแรก ถูกค้นพบในปี 1931 ทางตอนใต้ของมอนทานา ใกล้กับเมืองบิลลิงส์ ตามรายงานภาคสนามของ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอเมริกัน ได้มีการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดเล็ก ใกล้กับโครงกระดูกของทีนอนโตซอรัส มีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า Daptosaurus agilis [2]

ชื่อจริงของ Deinonychus คืออะไร?

โดยชื่อทางวิทยาศาสตร์ของไดโนเสาร์ ไดโนนีคัส มีชื่อเต็มว่า Deinonychus antirrhopus ถูกตั้งขึ้นในปี 1969 โดยนักบรรพชีวินวิทยา จอห์น เอช ออสตรอม (John H. Ostrom) โดยความหมายของชื่อมาจากภาษากรีก ซึ่งแปลว่า “นักล่าที่มีกรงเล็บทรงพลัง และหางที่ช่วยให้เคลื่อนไหว”

ข้อเท็จจริงสำหรับไดโนเสาร์ชนิดนี้

• พวกมันดำรงชีวิตตั้งแต่ 145 ล้านปีจนถึง 100.5 ล้านปีที่ผ่านมา
• เคยอาศัยอยู่บนบก
• เป็นสัตว์ประเภทกินเนื้อ
• ขยายพันธุ์โดยการวางไข่
• มีน้ำหนักของร่างกายประมาณ 75 กิโลกรัม
• นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบตัวอย่างที่แตกต่างกัน 41 ชิ้น

ที่มา: Deinonychus pictures and facts [3]

รีวิว พฤติกรรมการล่าเหยื่อของ ไดโนนีคัส

โดยฟันของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ที่พบร่วมกับซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ออร์นิโทพอด ซึ่งมีฟันจำนวนมาก และยังเป็นไดโนเสาร์ที่โตเต็มวัย 4 ตัว คาดว่าพวกมันอาจกินสัตว์ชนิดนี้เป็นอาหาร Ostrom และ Maxwell ได้ใช้ข้อมูลนี้เพื่อคาดเดาว่าพวกมัน อาจอาศัยและล่าเหยื่อเป็นฝูง ซึ่งมีการพบโครงกระดูกบางส่วนกว่า 6 ชิ้น

จากการศึกษาล่าสุด ได้มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการล่าแบบร่วมมือกันของ Deinonychus โดยอ้างอิงจากการล่าเนื้อ และการกินเนื้อในปัจจุบัน การสำรวจแหล่งที่อยู่อาศัยของเทนอนโทซอรัส, อาร์โคซอร์ และมังกรโคโมโดในปัจจุบัน ไม่ค่อยมีการล่าแบบร่วมมือกัน พวกมันมักจะล่าเหยื่อเพียงลำพัง หรือกินซากสัตว์

เมื่อนำข้อมูลไปใช้กับแหล่งที่พบซากฟอสซิล พบว่ามีความสอดคล้องกับการที่พวกมัน อาจมีกลยุทธ์การกินอาหาร โครงกระดูกของมันที่ถูกพบในแหล่งฟอสซิลที่ยังไม่โตเต็มวัย ในทางกลับกัน บทความของคณะนักสำรวจ ได้อธิบายถึงแหล่งที่พบรอยเท้า บ่งบอกว่าพวกมันมีพฤติกรรมแบบอยู่รวมกันเป็นสังคมมากกว่า [4]

ไดโนนีคัส อธิบายรูปลักษณ์ภายนอก | สาเหตุการสูญพันธุ์

ไดโนนีคัส (Deinonychus) ไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดกลาง ที่มีรูปลักษณ์และมีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยลักษณะกรงเล็บขนาดใหญ่บนหลังเท้า และความสามารถในการล่าด้วยความเร็ว ในส่วนถัดไป เราจะพาทุกท่านไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้พวกมันสูญพันธุ์ไปจากโลก มีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

รีวิว ลักษณะทางกายภาพของไดโนเสาร์นักล่าที่มีความไวเป็นเลิศ

• ขนาดและรูปร่าง : พวกมันมีความยาวประมาณ 3-4 เมตร และมีน้ำหนักประมาณ 50-70 กิโลกรัม ลำตัวมีลักษณะเพรียวคล้ายนก ซึ่งช่วยให้พวกมันเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
• หัวและฟัน : ส่วนหัวจะมีความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร เรียวยาว ประกอบไปด้วยฟันที่แหลมคม มีลักษณะโค้งเล็กน้อย เหมาะสำหรับฉีกเนื้อของเหยื่อ
• แขนและกรงเล็บ : แขนมีลักษณะยาวและแข็งแรง พร้อมกับกรงเล็บโค้งและแหลมคม มีกรงเล็บที่นิ้วมือ 3 นิ้ว ซึ่งใช้จับเหยื่อ หรือใช้ในการปีนป่าย
• ขาหลังและกรงเล็บที่เท้า : ขาหลังของมันมีความแข็งแรง มีกรงเล็บขนาดใหญ่บนเท้าข้างละ 1 นิ้ว ซึ่งยกขึ้นมาได้เมื่อพวกมันจะใช้งาน กรงเล็บนี้มีลักษณะคล้ายเคียว มีความยาวประมาณ 12 เซนติเมตร ใช้สำหรับแทงหรือฉีกเนื้อของเหยื่อ
• หาง : ส่วนหางมีลักษณะยาวและแข็งแรง มีโครงสร้างกระดูกที่ช่วยในการทรงตัว ทำให้เกิดความสมดุลในขณะออกวิ่งหรือกระโดด
• ขน : จากหลักฐานการค้นพบฟอสซิล และการวิเคราะห์ทางวิวัฒนาการ แสดงให้เห็นว่าพวกมันมีขนปกคลุมทั่วร่างกาย ซึ่งคล้ายกับนกในปัจจุบัน

เพราะเหตุใด Deinonychus จึงสูญพันธุ์?

1. การชนของอุกกาบาตขนาดใหญ่ : หลังจากที่เกิดการพุ่งชนของอุกกาบาตขนาดใหญ่ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง การพุ่งชนทำให้เกิดฝุ่นและเถ้าถ่าน ปิดกั้นแสงอาทิตย์ ทำให้อุณหภูมิโลกลดลง และทำลายห่วงโซ่อาหาร
2. การปะทุของภูเขาไฟ : การปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่ ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ออกมาปริมาณมาก การปะทุส่งผลให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
3. การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเล : ในยุคปลายยุคครีเทเชียส ระดับน้ำทะเลลดลง ทำให้พื้นที่ชายฝั่งและทะเลตื้น ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิดหายไป การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ทำให้ห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศเสียสมดุล
4. ผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหาร : พวกมันเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดกลาง ที่พึ่งพาอาศัยเหยื่อ เช่น ไดโนเสาร์กินพืช เมื่อสัตว์กินพืชเกิดการลดจำนวนลงจากการสูญพันธุ์ ทำให้พวกมันไม่สามารถหาอาหารเพียงพอต่อการดำรงชีวิต

และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของไดโนเสาร์นักล่า ไดโนนีคัส และสาเหตุที่ทำให้พวกมันสูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้ หากท่านต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับสายพันธุ์นักล่าชนิดอื่นๆ สามารถคลิกเข้าไปดูบทความจากทางผู้เขียนได้ที่ ไดโนเสาร์กินเนื้อ

สรุป ไดโนนีคัส

โดยรวมแล้ว ไดโนเสาร์ชนิดนี้ ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไดโนเสาร์นักล่า ที่มีความสำคัญต่อการศึกษาวิวัฒนาการ และพฤติกรรมของไดโนเสาร์ยุคครีเทเชียส อีกทั้งยังมีบทบาทในวัฒนธรรมสมัยนิยม ไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัวในภาพยนตร์ Jurassic Park รวมถึงการปรากฏตัวในวิดีโอเกมชื่อดัง ROBLOX

อ้างอิง

[1] ThoughtCo. (January 4, 2019). The First Fossils Were Discovered in 1931. Retrieved from thoughtco

[2] WIKIPEDIA. (November 3, 2024). Discovery and naming. Retrieved from en.wikipedia

[3] The Dinosaur Database. (2024). Deinonychus pictures and facts. Retrieved from dinosaurpictures

[4] DINOPEDIA. (2024). Predatory behavior. Retrieved from dinopedia.fandom