พาไปรู้จัก เทอโรซอร์ กิ้งก่ามีปีกบินได้ แห่งยุคดึกดำบรรพ์

พฤศจิกายน 28, 2024

เทอโรซอร์ สายพันธุ์สัตว์ดึกดำบรรพ์ยุคแรก ที่วิวัฒนาการร่างกาย ให้สามารถบินได้ด้วยปีกขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ในยุคครีเทเชียสตอนปลาย พวกมันถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน และยังเป็นบรรพบุรุษสัตว์โลกในยุคปัจจุบัน เราจะพาทุกท่านไปดูประวัติการขุดพบ ลักษณะทางกายภาพ และพฤติกรรมการดำรงชีวิตของพวกมัน

ข้อมูล เทอโรซอร์ บรรพบุรุษของค้างคาว บินได้ด้วยปีกขนาดใหญ่

เทอโรซอร์ (Pterosaur) ชื่อของพวกมันมาจากภาษากรีก ซึ่งหมายถึง “กิ้งก่ามีปีก” ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเภทสัตว์เลื้อยคลานประเภทหนึ่ง โดยอาศัยอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือก็คือโลกของยุคไดโนเสาร์นั่นเอง พวกมันมีลักษณะพิเศษ สามารถบินได้ด้วยปีกขนาดใหญ่ ที่ทำมาจากพังผืด เช่นเดียวกับค้างคาวในยุคปัจจุบัน

พวกมันมักถูกเรียกด้วยชื่อไดโนเสาร์บินได้ และยังมีอีกหนึ่งชื่อที่มนุษย์รู้จัก นั่นก็คือเทอโรแดกทิล พวกมันมีชีวิตอยู่ในช่วงมหายุคมีโซโซอิก ดำรงชีวิตและสืบทอดเผ่าพันธุ์มานานกว่า 162 ล้านปี ก่อนที่จะสูญพันธุ์ไปในช่วงปลายยุคครีเทเชียส ในปัจจุบัน นักบรรพชีวินวิทยา ได้มีการจำแนกชนิดของมันกว่า 200 ชนิด

มันได้วิวัฒนาการมาเป็นลำดับ ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เช่น ยุคจูราสสิค ไปจนถึงยุคครีเทเชียส เป็นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ที่สุด มีความสูงเทียบเท่ากับยีราฟ มีความกว้างของปีก 10.5 เมตร ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องบิน F-16 น้ำหนักตัว 200 กิโลกรัม ปากเป็นจะงอยยาว และพวกมันถูกจัดให้เป็นสิ่งมีชีวิตบินได้ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด [1]

ประวัติศาสตร์การค้นพบ เทอโรซอร์ ครั้งแรกบนโลก

โดยซากฟอสซิลของเจ้ากิ้งก่าบินได้ชนิดนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากมีโครงสร้างกระดูกที่เบา โครงสร้างโดยทั่วไปของกระดูกที่สมบูรณ์ จะพบได้เฉพาะในชั้นธรณีวิทยา ที่มีสภาพรักษาเป็นพิเศษ โดยซากฟอสซิลชิ้นแรก ถูกพบในชั้นหินปูน Solnhofen จากยุคจูราสสิคตอนปลาย ในประเทศบาวาเรีย

ซากฟอสซิลของไดโนเสาร์ชนิดนี้ ได้รับความสนใจ และได้รับความนิยมในกลุ่มนักสะสมที่ร่ำรวย ในปี 1784 นักธรรมชาติวิทยา Cosimo Alessandro Collini เราได้อธิบายฟอสซิลของ เทอโรซอร์ ครั้งแรก เกี่ยวกับแนวคิดในเรื่องของวิวัฒนาการ และการสูญพันธุ์ ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์

โครงสร้างที่ประหลาดของพวกมัน ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ว่าพวกมันเป็นสัตว์กลุ่มใด การค้นพบฟอสซิลครั้งยิ่งใหญ่นี้ จึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของบรรพชีวินวิทยา และธรณีวิทยาสมัยใหม่ และความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ในสมัยนั้น คาดว่าพวกมันน่าจะอาศัยอยู่ในทะเลเท่านั้น [2]

ข่าวสาร มีการพบฟอสซิล เทอโรซอร์ ขนาดใหญ่ที่สุด

ถึงแม้พวกมันจะไม่ใช่กลุ่มไดโนเสาร์ แต่ถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังชนิดแรก ที่มีการวิวัฒนาการด้านการบิน จากหลักฐานอันเก่าแก่ที่มีการขุดพบ มีอายุประมาณ 230 ล้านปี ก่อนหน้านี้นักวิจัยเผยว่า พวกมันอาจไม่ได้มีขนาดใหญ่ จนมาถึงปลายยุคจูราสสิค พวกมันก็ถูกจัดให้สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่มีการค้นพบ

ข่าวการค้นพบครั้งล่าสุด จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ ในประเทศสกอตแลนด์ เผยข้อมูลการศึกษากายวิภาคจากซากฟอสซิล ที่มีการขุดพบเมื่อ 5 ปีก่อน ในแหล่งน้ำบนเกาะสกาย ระบุว่าซากฟอสซิลชนิดนี้ ยังไม่มีใครที่รู้จักมาก่อน และได้ทำการตั้งชื่อตามภาษาเกลิคสกอตแลนด์ว่า “ยาร์ก สกีแอนอาร์ก” หมายถึง สัตว์เลื้อยคลานมีปีก

ในขณะที่ทำการวิเคราะห์การเจริญเติบโตฟอสซิลนี้ พบว่ามันยังมีขนาดที่ไม่โตเต็มวัย ซึ่งหมายความว่า ในขณะที่พวกมันโตเต็มวัย จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกับนกบินได้ขนาดใหญ่ที่สุด ก็คือ นกอัลบาทรอส แต่มีแนวโน้มว่าฟอสซิลนี้ อาจจะมีปีกที่ยาวกว่า จากการสแกนส่วนสมอง พบว่าพวกมันมีสมองส่วนกลางขนาดใหญ่อีกด้วย [3]

เทอโรซอร์ พาไปดูลักษณะทางกายภาพ และพฤติกรรมการดำรงชีวิต

หลังจากที่คุณ ได้ทำการดูรายละเอียดเกี่ยวกับการค้นพบ และการมีอยู่ของสัตว์เลื้อยคลานมีปีก บินได้ อย่างเช่น เทอโรซอร์ ที่ทางผู้เขียนได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น สำหรับข้อมูลในส่วนนี้ ทางเราจะพาทุกท่านไปดู รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพที่น่าสนใจ พร้อมกับบอกข้อมูลพฤติกรรมการดำรงชีวิตของพวกมัน มีข้อมูลดังนี้

รีวิว ลักษณะทางกายภาพของเจ้ากิ้งก่ามีปีกขนาดใหญ่

โครงสร้างของปีก : ปีกของมันจะประกอบไปด้วยผิวหนัง เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อที่ขึงอยู่ระหว่างนิ้วที่สี่ ที่ยืดออกมา ปีกจะติดกับลำตัวและขาหลังของพวกมัน ปีกจะประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อ ที่ช่วยให้พวกมันบินได้ ซึ่งเป็นประเภทเดียวกันกับปีกของค้างคาว
หัวและกราม : บางชนิดจะมีหัวยาวและแคบ และบางชนิดจะมีส่วนหัวที่ประดับไปด้วยหงอนขนาดใหญ่ ซึ่งอาจจะใช้ในการดึงดูดเพศตรงข้าม หรืออาจสร้างความสมดุลในการบิน ส่วนกรามของมันมีความหลากหลาย บางชนิดมีฟันแหลมคม บางชนิดอาจไม่มีฟัน
ลำตัว : ลำตัวของมันมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เพื่อช่วยลดแรงต้านอากาศในขณะที่บิน ส่วนกระดูกของมันมีโครงสร้างโปร่งแต่แข็งแรง เพื่อช่วยลดน้ำหนัก และเพิ่มความสามารถในการบิน
ขาและเท้า : ขาของมันมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับวิถีการดำรงชีวิต บางชนิดมีขาหลังที่แข็งแรง สำหรับการเดินบนพื้นดิน บางชนิดอาจมีขาที่เหมาะสำหรับการเกาะต้นไม้ หรือเกาะหน้าผา
ขนาดปีก : พวกมันมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป ชนิดเล็กที่สุดอาจมีขนาดปีกกว้างเพียง 25 เซนติเมตร บางชนิดอาจมีขนาดปีกที่ใหญ่และกว้างถึง 11 เมตร
ผิวหนังและขน : บางสายพันธุ์อาจมีขนเส้นเล็กๆ คล้ายขนอ่อน ซึ่งจะช่วยในการรักษาอุณหภูมิของร่างกาย

เรียนรู้ พฤติกรรมการดำรงชีวิตของเทอโรซอร์

พฤติกรรมการหาอาหาร : พวกมันเป็นนักล่าในอากาศ เหยื่อส่วนใหญ่ของพวกมันจะเป็นสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น ปลา บางชนิดอาจกินซากสัตว์ขนาดใหญ่บนพื้นดิน บางชนิดกินแมลง และบางชนิดอาจใช้ฟันสำหรับกรองแพลงก์ตอน หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจากน้ำ
พฤติกรรมการบิน : พวกมันถือว่าเป็นสัตว์ชนิดแรกบนโลก ที่มีกระดูกสันหลัง การบินของมันจะใช้พลังงานจากกล้ามเนื้ออกที่แข็งแรง คล้ายกับการบินของนกหรือค้างคาว บางชนิดอาจบินได้ไกลจนสามารถบินข้ามทะเลได้
พฤติกรรมการสืบพันธุ์ : มีหลักฐานว่าพวกมันวางไข่ และไข่ของมันมีลักษณะเปลือกอ่อน คล้ายไข่ของเต่า พวกมันจะทำการสร้างรังบนพื้นดิน หรือในพื้นที่ที่ปลอดภัยจากนักล่า เช่น หน้าผา ลูกของมันจะได้รับการดูแลในระยะแรก และบางชนิดอาจบินได้ทันทีหลังจากฟักออกมา
พฤติกรรมการเคลื่อนไหวบนพื้นดิน : พวกมันสามารถเดินด้วยท่าทาง หรือใช้ปีกช่วยเดิน บางชนิดที่มีรูปร่างเล็ก อาจสามารถเกาะบนต้นไม้ และมีวิถีชีวิตแบบกึ่งอากาศ
พฤติกรรมการดำรงชีวิตร่วมกัน : มีการพบหลักฐานว่าพวกมัน อาศัยอยู่เป็นฝูงในบางเวลาของช่วงชีวิต เช่น การทำรังร่วมกัน และอาจมีพฤติกรรมการแข่งขันระหว่างเพศ เช่น การแสดงหงอนที่ศีรษะ เพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม

และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพ และพฤติกรรมการดำรงชีวิตของสัตว์เลื้อยคลานมีปีก และการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ซากฟอสซิลในประเทศสกอตแลนด์ หากท่านใดต้องการดูบทความรีวิวเกี่ยวกับ ไดโนเสาร์ที่รักสงบ กินใบไม้เป็นอาหารหลัก สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ ไดโนเสาร์กินพืช

สรุป เทอโรซอร์

ถือว่าเป็นสัตว์ยุคแรกเริ่ม ที่มีพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบิน การหาอาหาร และการสืบพันธุ์ โดยพฤติกรรมเหล่านี้ ช่วยให้พวกมันสามารถอยู่รอดในระบบนิเวศ ในช่วงยุคมีโซโซอิกได้อย่างกว้างขวาง และทำให้พวกมันมีชีวิตทุกยุคทุกสมัย ก่อนที่จะเกิดการสูญพันธุ์