พาไปรู้จัก สเตโกซอรัส ไดโนเสาร์กระดูกบนหลัง หางเป็นอาวุธ

พฤศจิกายน 20, 2024

สเตโกซอรัส หนึ่งในสายพันธุ์ไดโนเสาร์กินพืช ที่มีความโดดเด่นอยู่ตรงแผ่นหลัง และมีหางเป็นอาวุธป้องกันตัว พวกมันถือว่าเป็นไดโนเสาร์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในหมู่นักบรรพชีวินวิทยา และผู้คนทั่วไป ลักษณะทางกายภาพที่ไม่เหมือนไดโนเสาร์ชนิดอื่น เราจะพาทำความรู้จักกิ้งก่าแผ่นหลังตัวนี้ให้มากขึ้น

ข้อมูล สเตโกซอรัส กิ้งก่ามีหลังคา และรายละเอียดการค้นพบ

สเตโกซอรัส (Stegosaurus) ชื่อของมันหมายถึงจุดเด่นที่รูปลักษณ์ “กิ้งก่ามีหลังคา” เป็นไดโนเสาร์กินพืชตระกูลไทรีโอฟรา หรือจำพวกไดโนเสาร์ที่เกราะ พวกมันดำรงชีวิตอยู่ในยุคจูราสสิกตอนปลาย ประมาณ 155-145 ล้านปีก่อนหน้านี้ แผ่นหลังเป็นกระดูก ซึ่งคล้ายกับเขาของไดโนเสาร์ ไทรเซอราทอปส์ ที่ยื่นออกมาจากส่วนหน้า

พวกมันเป็นสัตว์บกเดินด้วย 4 เท้า มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว เพราะแผ่นหลังของมันเต็มไปด้วยแผ่นหนามรูปทรงห้าเหลี่ยม ซึ่งสามารถใช้ข่มขู่ไดโนเสาร์นักล่า และยังใช้ในการดึงดูดเพศตรงข้าม ในวงฤดูผสมพันธุ์ อีกทั้งแผ่นหนามยังมีขนาดแตกต่างกัน จึงทำให้พวกมันมีเสน่ห์ อีกทั้งปลายหางยังใช้เป็นอาวุธสำหรับการป้องกันตัว

สเตโกซอรัส สายพันธุ์ไดโนเสาร์กินพืชขนาดกลาง โดยมีขนาดอยู่ที่ 6.5 เมตร และมีน้ำหนักอยู่ที่ 3.5 ตัน อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ไดโนเสาร์ตระกูลเดียวกัน Ungulatus ที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่า โดยรวมถือว่าพวกมันมีขนาดเทียบเท่ากับรถบัส ทำให้มันเป็นไดโนเสาร์กินพืชที่น่าเกรงขาม และดูน่ากลัวในสายตานักล่า [1]

ประวัติความเป็นมาของไดโนเสาร์ และการพบซากฟอสซิล

พวกมันถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไดโนเสาร์ ที่ได้รับการบรรยายไว้ใน Bone Wars และถูกรวบรวมเป็นครั้งแรกโดย อาเธอร์ เลคส์ (Arthur Lakes) ซึ่งประกอบไปด้วยกระดูกสันหลังส่วนหางหลายชิ้น แผ่นผิวหนัง และชิ้นส่วนหลังกะโหลกศีรษะ ที่ถูกรวบรวมได้จากทางตอนเหนือของมอร์ริสัน รัฐโคโลราโด

ชิ้นส่วนกระดูกที่แตกหักหลายชิ้น กลายเป็นต้นแบบของเจ้ากิ้งก่าหลังหนาม เมื่อนักบรรพชีวินวิทยา จากมหาลัยเยล ได้บรรยายถึงกระดูกเหล่านี้ในปี 1877 ในตอนแรกเชื่อกันว่า ซากฟอสซิลเหล่านี้ มาจากสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายเต่า แต่ชิ้นส่วนกระดูกแผ่นหลัง คล้ายกับแผ่นกระเบื้องบนหลังคา ระบุว่ามันเป็นสายพันธุ์ไดโนเสาร์

การค้นพบซากฟอสซิลครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2428 เป็นการพบกระดูกของสัตว์ที่โตเต็มวัย และเกือบสมบูรณ์แบบมากที่สุด รวมไปถึงการพบข้อต่อและองค์ประกอบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้แก่ กะโหลกศีรษะ กระดูกคอ และแผ่นหลังข้อต่อ ถูกพบที่เหมืองหินในภูเขา Garden Park ซึ่งใกล้กับรัฐโคโลราโด [2]

ข่าวสาร การค้นพบซากฟอสซิลที่เก่าแก่มากที่สุด

สเตโกซอรัส พวกมันเป็นสายพันธุ์ไดโนเสาร์กินพืช มีลักษณะเด่นตรงแผ่นหนามที่หลังมีขนาดใหญ่ และหางมีหนามแหลมยาว ศีรษะมีขนาดเล็ก ซึ่งดำรงชีวิตอยู่ในยุคจูราสสิกและต้นยุคครีเทเชียส มีการขุดพบซากฟอสซิลแทบทุกทวีป ยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกา และออสเตรเลีย ในปัจจุบันมีการค้นพบทั้งหมด 14 สายพันธุ์

ชนิดไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้ ที่เป็นที่รู้จักมันมากที่สุด ได้แก่ ไจแกนต์สไปโนซอรัส และฮัวหยางโกซอรัส ด้วยรูปร่างเด่นตรงกระดูกสันหลังส่วนไหล่ขนาดใหญ่ และไดโนเสาร์มิราไกอา ที่มีคอยาว แต่ซากฟอสซิลเหล่านี้ มีขนาดเล็กและแตกเยอะเกินไป เป็นการยากต่อการศึกษาว่าเป็นการวิวัฒนาการ และความสัมพันธ์กันอย่างไร

สำนักสำรวจพัฒนาทรัพยากรธรณีวิทยาในจีน และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติลอนดอน ได้ค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิด Bashanosaurus primitivus ในพื้นที่เมืองฉงชิ่ง คาดว่าเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมของไดโนเสาร์ Stegosaurus และมีความเกี่ยวข้องกับฮัวหยางโกซอรัส, ไจแกนต์สไปโนซอรัส และไทรีโอโฟแรน [3]

สเตโกซอรัส มารู้จักรูปลักษณ์ภายนอก และวิถีการดำรงชีวิต

สำหรับข้อมูลในส่วนนี้ ทางผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่าน ไปทำความรู้จักลักษณะภายนอกของไดโนเสาร์กินพืชมีแผ่นหลัง สเตโกซอรัส (Stegosaurus) มีดำรงชีวิตอยู่ในยุคจูราสสิกตอนปลาย พร้อมกับแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการดำรงชีวิต ที่ทำให้พวกมันกลายเป็นไดโนเสาร์ที่น่าเกรงขาม ในหมู่ไดโนเสาร์กินเนื้อ มีข้อมูลดังนี้

รีวิว ลักษณะทางกายภาพของเจ้ากิ้งก่ามีแผ่นหลัง

แผ่นกระดูกบนหลัง : พวกมันเป็นสายพันธุ์ไดโนเสาร์ชนิดมีเกราะ แผ่นกระดูกมีรูปทรงห้าเหลี่ยมแผ่นใหญ่ จำนวน 17 แผ่น ซึ่งเรียงเป็นสองแถวสลับกัน ตั้งแต่คอไปจนถึงหาง แผ่นหลังเหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับป้องกันตัว แต่อาจใช้เพื่อควบคุมอุณหภูมิร่างกาย และใช้ดึงดูดเพศตรงข้าม
หาง : ส่วนหางของมันจะมีกระดูกแหลมคล้ายหนาม 4 ชิ้นตรงปลายหาง ใช้สำหรับเป็นอาวุธป้องกันตัวจากนักล่า
ลำตัว : พวกมันเป็นไดโนเสาร์ขนาดกลาง-ใหญ่ ลำตัวค่อนข้างหนา มีความโค้ง กระดูกซี่โครงยื่นออกกว้าง ลำตัวด้านหน้าจะอยู่ต่ำกว่าด้านหลัง
ศีรษะ : ส่วนศีรษะที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับลำตัว มีสมองเล็กประมาณ 80 กรัม และขากรรไกรที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับกินพืช เช่น ใบไม้ขนาดเล็ก และเฟิร์น
ขนาดและน้ำหนัก : พวกมันมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 9 เมตร และความสูงจนถึงแผ่นกระดูก ประมาณ 4 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 5,000 กิโลกรัม
ผิวหนัง : มีการคาดเดาไว้ว่า ผิวหนังของพวกมัน อาจมีลักษณะหยาบ และมีลวดลาย ที่ช่วยในการพรางตัวในธรรมชาติ

นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานไว้ว่า พวกมันมีเส้นเลือดจำนวนมาก และแผ่นกระดูกไม่ได้มีไว้สำหรับป้องกันตัว แต่มีไว้สำหรับควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และข้อมูลสุดลับของไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้ ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดร่างกายใหญ่โต น่าเกรงขาม แต่แท้จริงแล้ว มันมีสมองที่เล็กกว่าเมล็ดถั่วเขียว [4]

ข้อมูล พฤติกรรมการดำรงชีวิตของ Stegosaurus

พฤติกรรมการกิน : เป็นไดโนเสาร์ชนิดกินพืช มีฟันเล็กและไม่แหลมคม ไม่เหมาะสำหรับฉีกใบไม้ ไม่สามารถเคี้ยวได้ละเอียด พืชส่วนใหญ่ที่พวกมันทาน จะเป็นพืชระดับต่ำ เช่น พืชใบเลี้ยงเดี่ยว และบางครั้งพวกมันอาจกลืนก้อนหิน เพื่อช่วยในการบดพืชในกระเพาะอาหาร
พฤติกรรมการเคลื่อนไหว : มันเป็นไดโนเสาร์ที่เคลื่อนที่ช้า เนื่องจากมีขาหน้าสั้น และน้ำหนักตัวเยอะ แม้ว่ามันจะไม่สามารถวิ่งหนีนักล่าได้ แต่มันมีหางที่ประกอบไปด้วยหนามแหลม ซึ่งเป็นอาวุธสำหรับการต่อสู้และป้องกันตัว
พฤติกรรมการอยู่รวมกัน : ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าไดโนเสาร์สายพันธุ์นี้ จะดำรงอยู่ชีวิตเป็นฝูง แต่อ้างอิงจากสายพันธุ์กินพืชชนิดอื่น การอยู่รวมกันจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย
พฤติกรรมการสืบพันธุ์ : คาดว่าพวกมันอาจวางไข่ในพื้นที่ปลอดภัย รังไข่และการเลี้ยงดูยังไม่มีข้อมูลชัดเจน จากการสำรวจฟอสซิลของไดโนเสาร์สายพันธุ์ใกล้เคียง คาดว่าพวกมันอาจมีการทำรังและปกป้องไข่ก่อนที่จะฟักออกมา

สรุป สเตโกซอรัส

เจ้ากิ้งก่ามีหลังคา ถือว่ามีบทบาทสำคัญในทางวิทยาศาสตร์ พวกมันเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไดโนเสาร์ชนิดแรกๆ ที่ถูกค้นพบ และมีการเขียนอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของไดโนเสาร์ยุคจูราสสิก ที่ได้รับความสนใจในงานวิจัย และวัฒนธรรมร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ หรือภาพยนตร์ชื่อดังมากมาย