บรอนโตซอรัส สายพันธุ์ไดโนเสาร์กินพืช ที่มนุษย์รู้จักมากที่สุด และยังเป็นสัญลักษณ์ไดโนเสาร์กินพืช พวกมันอาศัยอยู่ในช่วงยุคจูราสสิค ชื่อของมันมาจากภาษากรีก ซึ่งแปลว่า กิ้งก่าสายฟ้า มันเป็นหนึ่งในสมาชิกไดโนเสาร์คอยาว ที่ถูกพบในทวีปอเมริกาเหนือมาทำความรู้จักพวกมันให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นกันเถอะ
บรอนโตซอรัส (Brontosaurus) หนึ่งในสายพันธุ์ไดโนเสาร์คอยาว กินพืชเป็นอาหาร ที่สูญพันธุ์ไปในช่วงยุคจูราสสิคตอนปลาย ในทวีปอเมริกาเหนือ เดิมทีพวกมันเป็นหนึ่งในตระกูลอพาโตซอรัส แต่สายพันธุ์ของมัน ถูกจัดประเภทใหม่ หมายความว่า พวกมันเป็นสัตว์ที่ไม่ถูกต้อง ตามวิทยาศาสตร์มานานกว่า 100 ปี
อย่างไรก็ตาม การศึกษาทางวิจัยเชิงลึก ที่มีการตีพิมพ์ในปี 2015 โดยทีมวิจัยร่วมจากสหราชอาณาจักร และโปรตุเกส สรุปว่าไดโนเสาร์ชนิดนี้ เป็นหนึ่งในตระกูลที่ถูกต้อง ของกลุ่มซอโรพอด หรือสัตว์กินพืช ที่แตกต่างจากอพาโตซอรัส จนทำให้ในช่วงเวลาปัจจุบัน ไดโนเสาร์ตระกูลนี้ ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง [1]
มีการค้นพบโครงกระดูกซอโรพอดขนาดใหญ่ และค่อนข้างมีความสมบูรณ์แบบ ซึ่งได้รับการประกาศในปี 1879 โดยศาสตราจารย์ด้านบรรพชีวินวิทยา โอทนีเอล ชาร์ลส์ มาร์ช จากมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งตัวอย่างดังกล่าว ถูกเก็บมาจากหินมอร์ริสัน ที่เมืองโคโมบลัฟฟร์ รัฐไวโอมิง ถูกระบุสปีชีส์โดย วิลเลียม
วิลเลียม ฮาร์โลว์ รีด เขาได้ระบุสปีชีส์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และได้ตั้งชื่อว่า Brontosaurus excelsus “กิ้งก่าสายฟ้า” ซึ่งมาจากภาษากรีก ในช่วงเวลาของหินมอร์ริสัน ได้กลายเป็นศูนย์กลางของสงครามกระดูก ซึ่งเป็นการแข่งขัน ในการรวบรวมฟอสซิลระหว่างมาร์ช และกลุ่มนักบรรพชีวินวิทยาของ เอ็ดเวิร์ด ดริงเกอร์ โคป
ในปี พ.ศ. 2426 มาร์แชลล์ พี เฟลช์ ได้รวบรวมกะโหลกศีรษะของซอโรพอดทางตอนใต้ ในเหมืองหินเฟลช์ รัฐโคโลราโด จึงทำการส่งตัวอย่างไปยังมหาวิทยาลัยเยล ต่อมาก็ได้นำไปแสดงในโครงกระดูกจำลอง และภาพประกอบดังกล่าว ปรากฏอีกครั้งในสื่อพิมพ์สำคัญของมาร์ช เรื่อง The Dinosaurs of North America [2]
หลังจากที่มาร์ชได้ขุดพบเจอซากฟอสซิลของ Brontosaurus ที่มีความสมบูรณ์แบบ แต่ไม่มีการพบในส่วนของกะโหลกศีรษะ และพวกมันยังเป็นสัญลักษณ์ในวงการวิทยาศาสตร์ มาร์ชได้สร้างแบบจำลองบนกระดาษขนาดโปสเตอร์ ตัวอย่างดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 1883 ในเวลานั้น พวกมันมีชื่อเสียง เท่าที่มีการค้นพบ
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2446 หลังจากการประเมินตัวอย่างของ Apatosaurus และ Brontosaurus ขึ้นมาใหม่ของนักบรรพชีวินวิทยาชาวอเมริกัน เอลเมอร์ ริกส์ เขาสรุปว่าตัวอย่างอพาโตซอรัสของมาร์ช เป็นเพียงเวอร์ชันที่อายุน้อยกว่าซอโรพอดประเภทเดียวกัน และทั้งสองชนิดควรเป็นกลุ่มเดียวกัน
จากการเชื่อมโยงไดโนเสาร์ทั้งสองชนิด ถูกระบุภายหลังว่าเป็น Camarasaurus ข้อผิดพลาดดังกล่าว ทำให้นักบรรพชีวินวิทยา ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ และสาธารณชน ในปี 1978 ได้พบว่าอพาโตซอรัสและบรอนโตซอรัส มีกะโหลกศีรษะที่คล้ายกับซอโรพอด ดิพลอโดคัส หลังจากนั้นก็ได้มีการวัดลักษณะที่แม่นยำ [3]
บรอนโตซอรัส เจ้ากิ้งก่าสายฟ้าจากยุคจูราสสิค ที่เคยมีชีวิตเมื่อประมาณ 155 ล้านปีก่อน เดิมทีชื่อของมันพ้องเสียงมาจากอพาโตซอรัส แต่ต่อมาก็มีการแยกแท็กซอนของพวกมันออกจากกัน หลังจากการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ ก็มีข้อมูลเกี่ยวข้องในทางชีววิทยาโบราณ รวมไปถึงคำถามยอดฮิตสำหรับไดโนเสาร์ตัวนี้
ท่าทางและการเคลื่อนไหวของ Brontosaurus ในอดีตเชื่อกันว่า พวกมันมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะรับน้ำหนักของมัน ดังนั้น ตามทฤษฎีของซอโรพอดประเภทนี้ น่าจะเคยอาศัยอยู่ในน้ำบางส่วน เช่น ในหนองบึง การค้นพบครั้งล่าสุด ไม่ได้สนับสนุนแล้วคิดในส่วนนี้ และเชื่อกันว่า ซอโรพอดเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่บนบก
อีกทั้งพวกมันมักถูกวาดให้คอตั้งสูงในอากาศ ซึ่งทำให้มันสามารถกินพืชบนต้นไม้สูงได้ แม้ว่าการศึกษางานวิจัยบางกรณี จะชี้ให้เห็นว่าคอมีความยืดหยุ่น แต่สำหรับการศึกษางานวิจัยด้านอื่นๆ พบว่าสัตว์สี่ขาทุกตัว สามารถยืืดคอให้ตั้งตรงในท่าทางปกติ ยกเว้นลักษณะเฉพาะที่ไม่ทราบแน่ชัด เกี่ยวกับโครงสร้างของคอ
รอยเท้าของไดโนเสาร์กินพืช เช่นบรอนโตซอรัส แสดงให้เห็นว่าพวกมันมีระยะในการวิ่ง เฉลี่ยประมาณ 20-40 กิโลเมตรต่อวัน และพวกมันอาจวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุด 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าของไดโนเสาร์ประเภทนี้ อาจเกิดจากกล้ามเนื้อที่น้อยเกินไป หรือการหดตัวหลังจากก้าวเดิน [4]
จากข้อมูลข้างต้น เกี่ยวกับน้ำหนักที่มากเกินไป ทำให้พวกมันต้องอาศัยอยู่ในน้ำ เพื่อถ่ายเทการรองรับน้ำหนัก และก็มีข้อมูลจากนักบรรพชีวินวิทยา พวกเขาเคยคิดว่าพวกมัน หรือไดโนเสาร์กลุ่มเดียวกัน น่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในน้ำ แต่มีนักวิทยาศาสตร์ เอลเมอร์ ริกส์ เขามีข้อโต้แย้งว่าพวกมัน อาศัยอยู่บนบก
จนกระทั่งในปี 1970 เมื่อมีการวิจัยเพิ่มเติม ที่ช่วยยืนยันทฤษฎีของเขา โครงสร้างแขน-ขา กระดูกสันหลัง มือและเท้า ล้วนเป็นการปรับตัวเพื่อรองรับน้ำหนักอันมหาศาล ในขณะที่ไดโนเสาร์ประเภทนี้อยู่บนบก อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานการพบฟอสซิล ก็ยังมีการพบในตะกอนอ่อนของแม่น้ำและทะเลสาบ
แม้ว่าไดโนเสาร์ยักษ์ใหญ่กลุ่มซอโรพอด จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนบก แต่พวกมันน่าจะเดินลุยน้ำตื้น ซึ่งพฤติกรรมนี้เหมือนกับสัตว์ในยุคปัจจุบัน เช่น ช้าง ที่พวกมันดำรงชีวิตอยู่บนบก แต่ใช้เวลาใกล้แหล่งน้ำเพื่อกินน้ำหรืออาบน้ำ และยังสามารถเดินข้ามแม่น้ำสายใหญ่ เพื่อหาแหล่งอาหารใหม่ของพวกมันได้ [5]
พวกมันอาจมีพฤติกรรมคล้ายกับไดโนเสาร์กลุ่มซอโรพอด ที่จะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากนักล่า ถึงแม้ในอดีตจะมีการถกเถียงข้อมูล ว่าพวกมันเป็นชนิดเดียวกันกับอพาโตซอรัส แต่หลังจากการศึกษาฟอสซิลในปี 2015 ยืนยันว่าพวกมันเป็นกลุ่มที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจน
[1] JURASSIC WIKI. (2024). Brontosaurus. Retrieved from jurassicpark.fandom
[2] WIKIPEDIA. (December 10, 2024). History of discovery. Retrieved from en.wikipedia
[3] Britannica. (November 7, 2024). Taxonomic controversy. Retrieved from britannica
[4] DINOPEDIA. (2024). Paleobiology. Retrieved from dinopedia.fandom
[5] Natural History Museum. (2024). Did Brontosaurus live in water?. Retrieved from nhm