พาไปรู้จัก คาร์โนทอรัส กิ้งก่ามีเขายอดนักล่า ในยุคครีเทเชียส

พฤศจิกายน 24, 2024

คาร์โนทอรัส สายพันธุ์ไดโนเสาร์นักล่าที่โหด และดุร้ายมากที่สุด พวกมันมีจุดเด่นตรงเขาที่เหนือดวงตาทั้งสอง อีกทั้งยังเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ ในยุคครีเทเชียสตอนต้น พวกมันถือว่าเป็นไดโนเสาร์ที่มีข้อมูลที่น่าสนใจ เราจะพาไปทำความรู้จัก และพาไปดูหลักฐานการพบซากดึกดำบรรพ์ ของไดโนเสาร์นักล่าชนิดนี้

ข้อมูล คาร์โนทอรัส หลักฐานการค้นพบฟอสซิล | การจำแนกประเภท

คาร์โนทอรัส (Carnotaurus) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไดโนเสาร์นักล่า ตระกูลเทอโรพอดขนาดใหญ่ มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ครั้งแรกที่อเมริกาใต้ ซึ่งคาดว่ามันเคยอาศัยอยู่ในยุคครีเทเชียส ประมาณ 71-69 ล้านปีที่ผ่านมา จากหลักฐานพบว่าพวกมันเป็นสายพันธุ์เดียวเท่านั้น และยังเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไดโนเสาร์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

สิ่งที่ทำให้มันเป็นที่รู้จักมากที่สุด ก็คือข้อมูลจากหลักฐานซากดึกดำบรรพ์ ที่เกือบสมบูรณ์แบบมากถึง 70% จึงทำให้นักบรรพชีวินวิทยา มีความรู้เกี่ยวกับพวกมันมากที่สุด มีการค้นพบที่รัฐชูบุต ประเทศอาร์เจนตินา ทวีปอเมริกาใต้ เมื่อในปี 1984 โดยซากดึกดำบรรพ์นี้ถูกค้นพบในชั้นหิน La Colonia Formation

มันเป็นนักล่าที่มีขนาดใหญ่ แต่มีน้ำหนักตัวที่เบา มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 7.4-8 เมตร และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1.3-2.1 ตันเท่านั้น มันเป็นกลุ่มเทอโรพอดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นก็คือเขาทั้งสองข้าง ที่ยื่นออกมาบนหัวของมันนั่นเอง ซึ่งนักบรรพชีวินวิทยาหลายท่านเชื่อกันว่า เขาเหล่านี้มีไว้เพื่อป้องกันตัว หรืออาจใช้ดึงดูดตัวเมีย [1]

ประวัติการค้นพบฟอสซิล คาร์โนทอรัส โดยคณะสำรวจ

มีการค้นพบฟอสซิลเพียงชิ้นเดียวในปี 1984 โดยคณะสำรวจ ที่นำทีมนักบรรพชีวินวิทยาชาวอาร์เจนตินา พวกเขาได้กู้ซากดึกดำบรรพ์ของกลุ่มซอโรพอด Amargasaurus โดยมีลักษณะคล้ายหนาม อีกทั้งยังได้ออกสำรวจครั้งที่ 8 โดยมีการตั้งชื่อโครงการนี้ขึ้นมาว่า สัตว์มีกระดูกสันหลังบนบกในยุคจูราสสิก และครีเทเชียส

โดยโครงการนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1976 และได้รับการสนับสนุนจาก National Geographic Society มีการค้นพบกระดูกข้อต่อ กระดูกส่วนหลัง ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ พบว่าพวกมันอาจนอนตะแคงขวา ในขณะที่พวกมันตายแบบทั่วไป โดยคอโค้งไปด้านหลังลำตัว และยังมีรอยบนผิวหนังเป็นจำนวนมาก และกระดูกศีรษะยังผิดรูป

หลักฐานโครงกระดูกที่ถูกค้นพบ ถูกเก็บรวบรวมไว้ในฟาร์ม Pocho Sastre ในประเทศอาร์เจนตินา เนื่องจากโครงกระดูกถูกฝังในชั้นหินเฮมาไทต์ จากข้อมูลการสำรวจโครงกระดูก คาดว่าพวกมันเป็นสมาชิกของตระกูล Abelisauridae ที่ถูกค้นพบเป็นเวลานานหลายปี และเป็นไดโนเสาร์เทอโรพอดที่มนุษย์รู้จักมากที่สุด [2]

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดโนเสาร์ คาร์โนทอรัส

ชื่อของมันหมายถึง วัวกินเนื้อ แห่งยุคดึกดำบรรพ์ เป็นไดโนเสาร์ตระกูลอะเบลิซอรัส ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว พวกมันอาศัยอยู่ในประเทศอาร์เจนตินา ในช่วงปลายยุคครีเทเชียส มันเป็นไดโนเสาร์นักล่ากินเนื้อที่แปลกประหลาด เต็มไปด้วยความอันตราย เท่าที่มีการค้นพบ กะโหลกของมันมีลักษณะสั้น มีเขาแหลมบริเวณเหนือดวงตา 2 ข้าง

ด้วยลักษณะหัวที่เล็ก และแรงกัดอันมหาศาลของมัน อาจจะยังไม่สามารถล้มไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่ได้ แต่มันสามารถโจมตีเหยื่อด้วยความเร็ว จากการส่งพลังงานของขาหลัง และสามารถออกไล่ล่าเหยื่อที่มีขนาดเล็ก แต่ในความเป็นจริง หัวมันมีขนาดเล็ก แต่ขากรรไกรของมันกลับสามารถอ้ากว้าง เมื่อเทียบกับชนิดอื่น

และที่สำคัญ ไดโนเสาร์ชนิดนี้ยังไปปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง Jurassic World พวกมันถูกจัดในงานแสดงของแหล่งท่องเที่ยวดึกดำบรรพ์แห่งนี้ บทบาทของมันแสดงให้เห็นถึงความฉลาด จากการหลบหนีพนักงานทำความสะอาดมูลไดโนเสาร์ อีกทั้งมันยังได้เข้าต่อสู้กับราชานักล่าแห่งยุคครีเทเชียสอย่าง ทีเร็กซ์ อีกด้วย [3]

คาร์โนทอรัส รูปร่างของเจ้าวัวกินเนื้อ และพฤติกรรมการดำรงชีวิต

สำหรับไดโนเสาร์ คาร์โนทอรัส เจ้าวัวกินเนื้อแห่งยุคครีเทเชียส ที่มีการค้นพบหลักฐานฟอสซิลในประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งพบในชั้นหินที่ก่อตัวจากตะกอนบนปากแม่น้ำ และที่ราบลุ่มน้ำ สำหรับข้อมูลในส่วนนี้ ทางเราจะขอนำเสนอเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพ และพฤติกรรมการดำรงชีวิตของพวกมัน มีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

รีวิว ลักษณะทางกายภาพของเจ้าวัวกินเนื้อ

ขนาดและรูปร่าง : พวกมันมีความยาวประมาณ 30 ฟุต จากปลายจมูกจนถึงปลายหาง มีน้ำหนักประมาณ 2 ตัน มีโครงสร้างร่างกายเพรียวบาง มีลักษณะคล้ายสัตว์นักล่า ที่พัฒนาร่างกายให้วิ่งเร็ว
ศีรษะและเขา : พวกมันมีศีรษะที่สั้นและกว้าง ลักษณะแบน มีโพรงอากาศในกะโหลกเพื่อลดน้ำหนัก อีกหนึ่งจุดเด่นของพวกมัน ก็คือเขาคู่ที่อยู่เหนือดวงตา มีลักษณะที่สั้นและหนา ใช้ในการแสดงออกทางพฤติกรรมทางสังคม ฟันมีลักษณะคมและโค้ง เหมาะสำหรับการกัดหรือฉีกเนื้อของเหยื่อ
แขนและขา : แขนมีลักษณะสั้นที่สุดในบรรดาสัตว์กินเนื้อ ขามีลักษณะที่ยาวและทรงพลัง เหมาะสำหรับการวิ่งที่รวดเร็ว นิ้วเท้าประกอบไปด้วยนิ้ว 3 นิ้ว และประกอบไปด้วยกรงเล็บแหลมคม
ลำตัวและผิวหนัง : ลำตัวของพวกมันมีลักษณะแคบและยาว มีโครงสร้างสมดุลในการออกวิ่ง ผิวหนังมีลักษณะเป็นตุ่ม ซึ่งทำมาจากกระดูกเล็กๆ เรียงกันบนแผ่นหลังและข้างลำตัว
หาง : หางมีลักษณะยาวและแข็งแรง ช่วยให้พวกมันทรงตัวได้ดีในขณะออกล่าเหยื่อ และยังเพิ่มความสมดุลเมื่อพวกมันต้องเปลี่ยนทิศทางด้วยความเร็วสูง

จากข้อมูลของนักวิจัย เชื่อว่ากรามของมันมีความยืดหยุ่น ซึ่งหมายความว่ามันไม่มีแรงกัดที่มากพอ แต่จากการศึกษาครั้งล่าสุด พบว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นเช่นนั้น ผู้เชี่ยวชาญบางท่านบอกว่าพวกมันอาจมีแรงกัดมากกว่าจระเข้ ที่ถูกเรียกว่ามันเป็นสัตว์ที่มีแรงกัดมากที่สุดในปัจจุบันด้วยซ้ำ [4]

พฤติกรรมการดำรงชีวิตในยุคครีเทเชียส

พฤติกรรมการออกล่า : พวกมันสามารถล่าเหยื่อด้วยพลังขาที่แข็งแรง มักจะล่าเหยื่อประเภทกินพืชขนาดเล็ก และสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่นๆ โดยจะใช้วิธีการซุ่มโจมตี เพื่อลดการใช้พลังงานในการวิ่ง
พฤติกรรมการดำรงชีวิต : มีความเป็นไปได้ว่าพวกมันอาจดำรงชีวิตเพียงลำพัง แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานการพบฟอสซิลการอยู่เป็นฝูง แต่คาดว่าในบางกรณี เช่น การออกล่าเหยื่อที่มีขนาดที่ใหญ่กว่า หรือการอยู่เป็นฝูงเพื่อต่อสู้ในอาณาเขตของพวกมันนั่นเอง
พฤติกรรมทางสังคม : พวกมันอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นทุ่งหญ้า หรือพื้นที่ป่าเปิดโล่งในทวีปอเมริกาใต้ เพื่อเอื้ออำนวยในการวิ่ง และการซุ่มโจมตี ในแต่ละวันพวกมันอาจจะนอนพักผ่อน
พฤติกรรมการสืบพันธุ์ : ตัวผู้จะมีเขาที่แข็งแรง และมีลักษณะใหญ่กว่าตัวเมีย และสำหรับการวางไข่ อาจจะยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่คาดว่าพวกมันอาจวางไข่ในรัง คล้ายกับไดโนเสาร์กินเนื้อชนิดอื่นๆ

สรุป คาร์โนทอรัส

โดยรวมแล้ว ถือว่าพวกมันเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ไดโนเสาร์นักล่า ที่มนุษย์มีข้อมูลมากที่สุด และพวกมันยังมีพฤติกรรมในการอยู่รอด และสามารถปรับตัวได้ดีในยุคครีเทเชียส แสดงให้เห็นถึงบทบาทในระบบนิเวศ ในฐานะนักล่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง และประสิทธิภาพในการล่าเหยื่อ