พาไปรู้จัก สไปโนซอรัส ไดโนเสาร์กินเนื้อมีใบเรือตรงแผ่นหลัง

พฤศจิกายน 23, 2024

สไปโนซอรัส สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่อาศัยอยู่ในยุคครีเทเชียสตอนกลาง พวกมันเป็นนักล่าที่มีขนาดใหญ่ และมีจุดเด่นอยู่ตรงแผ่นหลัง ที่มีกระดูกคล้ายใบเรืองอกออกมา สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทั้งในน้ำและบนบกได้ดี มาดูประวัติการค้นพบฟอสซิล ไปจนถึงรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของพวกมัน

ข้อมูล สไปโนซอรัส ประวัติการขุดพบสัตว์เลื้อยคล้ายมีกระโดง

สไปโนซอรัส (Spinosaurus) ชื่อของมันแปลว่า สัตว์เลื้อยคลานมีกระโดง พวกมันถูกขุดพบครั้งแรก ในแถบทะเลทรายซาฮาร่า เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1915 ถูกพบโดยนักบรรพชีวินวิทยา เอิร์ล สโตรเมอร์ เขาขุดจากการขุดตามชายขอบด้านตะวันออกของแม่น้ำโบราณ เป็นแถบชั้นหินแคมเบรียน ก่อตัวขึ้นเป็นพรมแดนด้านตะวันตก

พวกมันดำรงชีวิตในทวีปแอฟริกา มีชีวิตอยู่ในช่วงยุคครีเทเชียส เมื่อประมาณ 100-97 ล้านปีที่ผ่านมา ในช่วงที่พวกมันดำรงชีวิต ก็มีไดโนเสาร์นักล่าขนาดใหญ่อาศัยอยู่ด้วย เช่น คาร์คาโรดอนโทซอริดส์ พวกมันดำรงชีวิตในระบบนิเวศเดียวกัน แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกัน อีกทั้ง สไปโนซอรัส ยังเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดของโลก

ประวัติการพบซากฟอสซิลของ สไปโนซอรัส

ฟอสซิลของไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ตัวนี้ ถูกพบครั้งแรกในปี 1915 โดยนักบรรพชีวินวิทยา พบในบริเวณทะเลทรายซาฮาร่า ทางบริเวณตะวันออกของประเทศอียิปต์ ถูกคาดคะเนหน้าตาคล้ายกับไดโนเสาร์ ทีเร็กซ์ เนื่องจากมีการขุดพบฟอสซิลเพียงบางส่วน ได้แก่ กรามล่าง กระโดงหลัง และกระดูกส่วนอื่นๆ

ต่อมาในปี 1943 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทำการทิ้งระเบิดลงในเมืองมิวลิก ทำให้หลักฐานฟอสซิลในพิพิธภัณฑ์ถูกทำลายจนหมด และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีการขุดพบฟอสซิลของไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ที่สุด Spinosaurus ในแอฟริกาอีกต่อไป

จนถึงปี 1990 ได้มีการขุดพบสายพันธุ์ไดโนเสาร์เครือญาติ ได้แก่ ซูโคไมมัสและบาริออนนิกซ์ พบว่าพวกมันไม่ได้มีรูปลักษณ์หน้าตาที่คล้ายกัน แต่มีลักษณะปากที่ยาวแคบ ลำตัวยาว มีหงอนขนาดเล็กอยู่เหนือดวงตาทั้งสองข้าง อีกทั้งมันยังเดินด้วยขาหลังในบางครั้ง และมีจุดเด่นตรงกระโดงรูปครึ่งวงกลมขนาดใหญ่บนแผ่นหลัง [1]

ข้อมูล ความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมสมัยนิยม

สไปโนซอรัสได้ไปปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง Jurassic Park III ในปี 2001ซึ่งเข้ามาในฐานะศัตรูของไทรันโนซอรัส โดยนักบรรพชีวินวิทยาที่ปรึกษาของภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาอ้างอิงเกี่ยวกับความยาวของสัตว์ต่างๆ ไม่มีสัตว์ตัวใดที่เคยมีชีวิตบนโลก ที่จะมีความยาวเทียบเท่ากับไดโนเสาร์กินเนื้อสายพันธุ์นี้

และสมมติฐานของ John R. Horner กล่าวไว้ว่า ไทรันโนซอรัสอาจเป็นไดโนเสาร์กินซากมากกว่าจะเป็นนักล่า และในภาพยนตร์ สไปโนซอรัสถูกสร้างในรูปลักษณ์ขนาดใหญ่และทรงพลัง ในฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างนักล่าทั้งสอง ทำให้เจ้ากิ้งก่ามีกระโดงตัวนี้ ก็ได้รับชัยชนะ โดยการหักคอไทรันโนซอรัส ในภาพยนตร์ภาคที่ 4

อีกทั้งมันยังไปปรากฏตัวในวิดีโอเกมชื่อดัง ได้แก่ Jurassic World Evolution และภาคต่อของตัวเกม โดยไดโนเสาร์ชนิดนี้ ถูกพรรณนาไว้เป็นเวลานาน ในหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับไดโนเสาร์ ถึงแม้ว่าจะมีข้อมูลที่ไม่เพียงพอ ที่จะอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของมันได้อย่างแม่นยำ [2]

สไปโนซอรัส รายละเอียดเกี่ยวกับรูปร่าง และการดำรงชีวิต

ไดโนเสาร์นักล่าขนาดใหญ่ สไปโนซอรัส ที่มีจุดเด่นตรงกระโดงข้างหลัง ที่ทำให้มันเป็นไดโนเสาร์น่าเกรงขาม หลังจากที่ผู้อ่านได้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับการพบฟอสซิลของไดโนเสาร์ชนิดนี้ สำหรับข้อมูลในส่วนถัดไป ทางผู้เขียนจะขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพ และพฤติกรรมการดำรงชีวิตในช่วงเวลานั้น

รีวิว ลักษณะทางกายภาพของไดโนเสาร์นักล่าขนาดใหญ่

ขนาด : มันถือว่าเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความยาว 15-18 เมตร และน้ำหนักประมาณ 7-20 ตัน
กระดูกสันหลัง : พวกมันมีโครงสร้างกระดูกสันหลัง ที่คล้ายกับใบเรือ ซึ่งมีขนาดความสูง 1.65 เมตร โดยเป็นจุดเด่นของพวกมัน เชื่อว่ามีไว้สำหรับการควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย หรือใช้ในการแสดงพฤติกรรมทางเพศ และพฤติกรรมการแสดงอาณาเขต
ลักษณะของศีรษะ : ศีรษะของมันมีลักษณะยาวและเรียว ซึ่งคล้ายกับจระเข้ มีขากรรไกรที่แคบ เหมาะสำหรับการจับเหยื่อประเภทปลา ความยาวของหัวประมาณ 1.75-2 เมตร ฟันแหลมคม และเรียงตัวอย่างหนาแน่น โพรงจมูกตั้งอยู่สูงกว่าปกติ ช่วยให้พวกมันสามารถหายใจได้แม้จะอยู่ใต้น้ำ
ลำตัวและแขน : แขนมีกรงเล็บขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกรงเล็บที่นิ้วโป้งที่ยาวและโค้ง เหมาะสำหรับการจับเหยื่อ ลำตัวเรียวยาว ที่จะช่วยให้พวกมันลอยน้ำได้
หาง : หางมีลักษณะแบนและยืดหยุ่นคล้ายครีบปลา ช่วยในการว่ายน้ำ จากข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์ คาดว่าหางมีไว้สำหรับการพุ่งตัว ในขณะที่พวกมันอยู่ในน้ำอีกด้วย
ขา : ขาหลังค่อนข้างสั้นเมื่อเทียบกับเทโรพอดตัวอื่นๆ และมีเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินบนพื้นดินที่เปียก หรืออยู่ในน้ำ มีหลักฐานพบว่า พวกมันอาจเดินด้วย 4 ขาในบางกรณี

ถึงแม้จะมีงานวิจัยและข้อมูลทางบรรพชีวินวิทยา ที่ถูกนำเสนอเมื่อไม่นานมานี้ ก็ยังเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถในการว่ายน้ำและการดำน้ำ งานวิจัยนี้สอดคล้องกับข้อสรุปของเฮนเดอร์สัน โฮนและโฮลต์ซ พวกมันอาจจะลอยตัวเหนือผิวน้ำมากกว่าการดำน้ำ และไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการว่ายน้ำ [3]

ข้อมูล พฤติกรรมการดำรงชีวิตของกิ้งก่าหลังกระโดง

พฤติกรรมการออกล่า : เชื่อว่าพวกมันเป็นนักล่าสัตว์น้ำเป็นหลัก เนื่องจากลักษณะศีรษะที่ยาวเรียว และฟันแหลมไม่มีรอยหยัก เหมาะกับการจับปลา รวมถึงจระเข้ดึกดำบรรพ์ บางครั้งมันอาจล่าเหยื่อบนบก แม้พวกมันจะใช้ชีวิตในน้ำ แต่บางครั้งมันมักจะล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือไดโนเสาร์ขนาดเล็ก
พฤติกรรมการเคลื่อนไหว : เมื่อพวกมันอยู่ในน้ำ จะใช้หางที่แบนคล้ายใบพายในการว่าย หางมีความยืดหยุ่น ช่วยให้พวกมันเคลื่อนที่ได้อย่างดีเยี่ยม หากพวกมันอยู่บนบก อาจมีการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้ากว่าตอนที่มันอยู่ในน้ำ อาจจะเดินด้วยสองขาและสี่ขา
พฤติกรรมการปรับตัว : กระโดงที่ยื่นออกมาจากด้านหลัง อาจช่วยในการควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย พวกมันมักอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลัก
พฤติกรรมทางสังคม : กระโดงหลังคล้ายใบเรือ อาจเป็นเครื่องมือในการแสดงอำนาจเพื่อข่มขู่คู่แข่ง หรือดึงดูดคู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ และพวกมันอาจดำรงชีวิตเพียงลำพัง
พฤติกรรมการผสมพันธุ์ : ยังเป็นข้อมูลที่ไม่แน่นอน แต่เชื่อว่ามีการแสดงพฤติกรรมในการดึงดูดเพศตรงข้าม อาจสร้างรังใกล้กับแหล่งน้ำเพื่อสำหรับวางไข่

สรุป สไปโนซอรัส

โดยรวมแล้ว พวกมันอาจเป็นสายพันธุ์นักล่าที่ดุร้ายมากที่สุด จากการค้นพบหลักฐานฟอสซิล ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และยังแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน นอกจากนี้ ยังมีการปรากฏตัวในภาพยนตร์ชื่อดัง และการปรากฏตัวในวิดีโอเกม